ไขข้อข้องใจ กินแต่ผลไม้ ทำไมยังอ้วน & เป็นเบาหวานทานผลไม้ได้เท่าไหน ?

ไขข้อข้องใจ กินแต่ผลไม้ ทำไมยังอ้วน & เป็นเบาหวานทานผลไม้ได้เท่าไหน ?

อยากจะลดความอ้วน กินแต่ผลไม้ ไม่ได้กินของอ้วนๆเลย ทำไมน้ำหนักไม่ลด แถมบางทียังเพิ่มเอาๆ รู้ไหมว่า …

👉 ในผลไม้ก็มีน้ำตาล ซึ่งเรียกว่าน้ำตาล “ฟรุกโตส” ถึงแม้จะเป็นน้ำตาลคนละชนิดกับน้ำตาลทราย แต่ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้น และ ให้พลังงาน (แคลอรี) ได้เช่นกัน

👉 พลังงานของผลไม้ 1 ส่วน มีคาร์โบไฮเดรต 15 กรัม และพลังงานใกล้เคียงกับข้าว 1 ทัพพี (60 kcal ซึ่งข้าว 1 ทัพพี ให้พลังงาน 80kcal) ผลไม้ 1 ส่วน คือ ปริมาณเท่าไหร่ ?

ผลไม้แต่ละชนิดมีปริมาณน้ำตาลไม่เท่ากัน เช่น

ปริมาณต่อไปนี้คือ ปริมาณของผลไม้ 1 ส่วน ซึ่งมีปริมาณคาร์โบไฮเดรต (น้ำตาล) 15 กรัม หรือเทียบเท่ากับข้าวประมาณ 1 ทัพพี

✅ ฝรั่ง/แก้วมังกร/มะม่วง/กล้วยหอม : ครึ่งผลกลาง ✅ แอปเปิล/ส้ม/กล้วน้ำว้า : 1 ผลเล็ก ✅. ทุเรียน : 1 เม็ดเล็ก ✅ แตงโม/สัปปะรด/มะละกอ : 6-8 ชิ้นคำ ✅ มังคุด/เงาะ : 4 ผล ✅ ส้มโอ/มะขาม/ขนุน : 2 ชิ้น

หรือหากจำง่ายๆ คือปริมาณของผลไม้เท่ากับจานรองแก้วกาแฟ

สรุปง่ายๆ เช่น ทานส้ม 1 ลูก น้ำตาลและพลังงานจะใกล้เคียงกับทานข้าว 1 ทัพพี (ทาน 4 ลูก เท่ากับทานข้าว 3 ทัพพี)

ผู้เป็นเบาหวานจึงต้องควบคุมปริมาณเป็นพิเศษ เพราะทำให้น้ำตาลในเลือดสูงได้นะคะ

ข้อแนะนำการทานผลไม้ ✅ ทาน 3 ส่วน/วัน ✅ แบ่งเป็น 1 ส่วน/มื้อ ผลไม้มีประโยชน์มากมาย แต่ก็ไม่ควรทานทีเดียวเป็นกิโลนะคะ เพราะให้น้ำตาลสูงได้ ✅ ทานผลไม้สดดีกว่าน้ำผลไม้คั้นหรือปั่นแยกกาก เพราะเราจะได้ประโยชน์อย่างมากจากใยอาหาร (อ่านต่อในเรื่อง น้ำผลไม้) ✅ เลือกผลไม้ปลอดสารเคมี หรือ อย่าลืมล้างให้สะอาดด้วยผงฟู,เกลือ, ด่างทับทิม, หรือน้ำไหลผ่านมากๆ เพื่อชะล้างสารเคมีออกด้วยนะคะ

เขียนโดย กฤดิ์ชนา หุตะแพทย์ นักกำหนดอาหารวิชาชีพ

แหล่งอ้างอิง รายการอาหารแลกเปลี่ยน ศูนย์เบาหวานศิริราช

#นับคาร์บ #น้ำผลไม้คั้น #ใยอาหาร #อาหารแลกเปลี่ยน #เบาหวาน #วิธีการล้างผักผลไม้ ลดสารเคมี